การบริหารจัดการเวลา หมายถึง ทักษะส่วนตัวที่ช่วยให้บุคคลสามารถจัดสรรเวลา วางแผน และควบคุมการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อบรรลุเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการ ทักษะนี้ส่งผลต่อความสำเร็จทางธุรกิจ เพราะช่วยให้ทำงานเสร็จทันเวลา มีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา และลดความเครียด
ลักษณะของผู้ที่มีการบริหารจัดการเวลาที่ดี
● มีทักษะการวางแผน: วางแผนล่วงหน้า กำหนดเป้าหมาย กำหนดเวลา
● มีทักษะการจัดลำดับความสำคัญ: เรียงลำดับงานจากสำคัญมาก น้อย
● มีทักษะการโฟกัส: จดจ่อกับงาน ไม่วอกแวก
● มีทักษะการปฏิเสธ: ปฏิเสธงานที่ไม่จำเป็น
● มีทักษะการมอบหมายงาน: มอบหมายงานให้ผู้อื่น
● มีทักษะการติดตามผล: ติดตามผลงาน ตรวจสอบความคืบหน้า
● มีทักษะการแก้ปัญหา: แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
● มีทักษะการตัดสินใจ: ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
● มีทักษะการสื่อสาร: สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เข้าใจง่าย
● มีทักษะการฟัง: ตั้งใจฟัง เข้าใจมุมมองผู้อื่น ถามคำถาม
● มีทักษะความเห็นอกเห็นใจ: เข้าใจ ใส่ใจ ความรู้สึกผู้อื่น
● มีทักษะความยืดหยุ่น: ปรับตัว ยอมรับความคิดเห็น
● มีทักษะการให้เกียรติ: เคารพ ยอมรับ ความคิดเห็นผู้อื่น
วิธีฝึกฝนการบริหารจัดการเวลา
● ตั้งเป้าหมาย: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้
● วางแผน: วางแผนล่วงหน้า กำหนดเวลา
● จัดลำดับความสำคัญ: เรียงลำดับงานจากสำคัญมาก น้อย
● โฟกัส: จดจ่อกับงาน ไม่วอกแวก
● ปฏิเสธ: ปฏิเสธงานที่ไม่จำเป็น
● มอบหมายงาน: มอบหมายงานให้ผู้อื่น
● ติดตามผล: ติดตามผลงาน ตรวจสอบความคืบหน้า
● แก้ปัญหา: แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
● ตัดสินใจ: ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
● ใช้เครื่องมือช่วย: ใช้เครื่องมือช่วยจัดการเวลา เช่น ปฏิทิน แอปพลิเคชั่น
● ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ พัฒนาตนเอง
การบริหารจัดการเวลา เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ นักศึกษาจบใหม่หรือกำลังเรียนอยู่ควรฝึกฝนทักษะนี้ เพื่อพัฒนาตนเอง และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในอนาคต
ตัวอย่างวิธีฝึกฝน
● จดบันทึกสิ่งที่ต้องทำ
● วางแผนรายวัน รายสัปดาห์
● กำหนดเวลาทำงานแต่ละอย่าง
● นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
● ออกกำลังกาย
● ทานอาหารที่มีประโยชน์
● ฝึกสมาธิ